รายงาน State of Cyber Resilience โดย Marsh และ Microsoft ระบุว่าแม้ภัยคุกคามไซเบอร์จะเพิ่มขึ้นทั้งในด้านความถี่และความรุนแรง และกฎระเบียบก็เข้มงวดขึ้น แต่ 1 ใน 3 ของบริษัทในเอเชียกลับไม่มีการวางแผนและทดสอบแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ สำหรับบริษัทที่มีแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์อยู่แล้ว มักพบว่าแผนเหล่านั้นยังมีช่องโหว่ในกระบวนการรับมือและแนวทางการดำเนินงาน ทำให้ผู้บริหารและพนักงานขาดความพร้อมในการจัดการผลกระทบทางการเงิน การดำเนินงาน และชื่อเสียงที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์ บริษัทที่ไม่มีแผนรับมือหรือไม่ได้ทำการทดสอบแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์อาจเผชิญกับความสูญเสียและมีต้นทุนที่สูงกว่าบริษัทที่มีแผนและการทดสอบที่ดีถึง 41% โดยเฉลี่ย1
ความไม่พร้อมนี้บ่อยครั้งเกิดจากการขาดการจำลองวิกฤตทางไซเบอร์ ซึ่งควรออกแบบให้สอดคล้องกับความท้าทายเฉพาะขององค์กร และดำเนินการอย่างเป็นอิสระเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงและผลลัพธ์ที่แข็งแกร่ง
เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นหากมีการรับมือที่ไม่เพียงพอ ทุกองค์กรจึงต้องถามตัวเองว่า แผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ของเราพร้อมสำหรับสถานการณ์จริงแล้วหรือไม่
ด้วยโครงสร้างที่อ้างอิงจากแนวทางสี่ขั้นตอนที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว การจำลองวิกฤตทางไซเบอร์ของ Marsh Asia (Marsh Asia's Cyber Crisis Simulation Exercise) ได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถทดสอบความแข็งแกร่งของแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ได้แบบเรียลไทม์ โดยจำลองภัยคุกคามที่สมจริงและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่องค์กรอาจเผชิญ
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ:
กระบวนการทั้งหมดสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 6-8 สัปดาห์ ตามกระบวนการดังนี้
Marsh Asia จะเริ่มด้วยการทำความเข้าใจองค์กร ระบุผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องในระดับผู้บริหารและคณะกรรมการ รวมถึงทบทวนแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ แผนบริหารวิกฤต ขั้นตอนปฏิบัติ และรายงานการฝึกซ้อมที่ผ่านมา
หากองค์กรของคุณยังไม่มีแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ เราสามารถช่วยพัฒนาแผนที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม ระดับความพร้อมด้านไซเบอร์ และความต้องการเฉพาะขององค์กรคุณ
Marsh Asia จะทำงานร่วมกับองค์กรของคุณเพื่อกำหนดขอบเขต ตัวชี้วัด และสถานการณ์จำลองที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่ตกลงร่วมกัน
เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองที่เหมาะสม เราจะพิจารณาประเภทของภัยคุกคามไซเบอร์ เช่น การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์หรือการรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรของคุณมากที่สุด
เรายังคำนึงถึงโครงสร้างองค์กรและสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน รวมถึงบทบาทและความรับผิดชอบของผู้เข้าร่วม เพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ในระหว่างการฝึกซ้อมจะสร้างผลกระทบต่อจุดเชื่อมต่อในองค์กร ในลักษณะที่เป็นระบบและมีลำดับขั้นตอนชัดเจน ซึ่งจะช่วยทดสอบขีดความสามารถทั้งในระดับบุคคลและระบบขององค์กร
ขั้นตอนนี้จะรวมการสรุปช่วงท้ายด้วยการถ่ายทอดความรู้ ให้ผู้เข้าร่วมจะได้รับข้อมูลโดยละเอียดเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่การจำลองสถานการณ์
เมื่อมีความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤต กระบวนการทำงาน และคำแนะนำแล้ว Marsh Asia จะดำเนินการจำลองสถานการณ์ตามแผนที่วางไว้ การจำลองสถานการณ์นี้จะดำเนินการแบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและความสามารถของผู้เข้าร่วมในการควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์
การจำลองนี้ไม่เพียงทดสอบทักษะการตัดสินใจของผู้เข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังประเมินการประสานงานระหว่างแผนกและระดับต่าง ๆ ภายในองค์กรอีกด้วย
หลังจากการฝึกซ้อม Marsh Asia จะจัดทำรายงานสรุปผล (After Action Report – AAR) โดยจะรวมถึงข้อเสนอแนะและข้อสังเกตที่ได้จากการฝึกซ้อม เน้นส่วนที่ทำได้ดี และอธิบายจุดอ่อนในแผนรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ ข้อเสนอแนะที่มีการจัดลำดับความสำคัญของเราจะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน เพื่อปรับปรุงแนวทางการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์และการจัดการวิกฤตให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น องค์กรของคุณจะสามารถ:
เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยคุกคามไซเบอร์ การรับมือขององค์กรควรครอบคลุมมากกว่าการจัดการวิกฤตในทันที แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการเรียกร้องค่าสินไหมประกันภัยด้วยMarsh Asia มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารวิกฤต ความต่อเนื่องทางธุรกิจ ความปลอดภัยและประกันภัยไซเบอร์ โดยได้รับการพัฒนาผ่านการทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น บริการทางการเงิน การผลิต และเทคโนโลยีการจำลองวิกฤตทางไซเบอร์ของเราได้รับการออกเแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของ Marsh Asia เพื่อเรียนรู้ว่าการจำลองวิกฤตทางไซเบอร์ของเราจะช่วยเสริมศักยภาพให้องค์กรของคุณสามารถรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร