3 วิธีที่ AI ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างชัดเจน เพื่อรับมือความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากร

ธุรกิจต่างๆ กำลังพิจารณาการย้ายหรือถอนฐานการลงทุนกลับสู่ประเทศแม่ (reshoring) เป็นกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากร แต่บริษัทต่างๆ อาจเผชิญความท้าทายในการระบุความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าวตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน อีกทั้งนโยบายการค้าใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการย้ายการลงทุนกลับสู่ประเทศแม่ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก

แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะช่วยให้บริษัทนำกิจการกลับเข้ามาภายในประเทศได้อย่างมั่นใจ ด้วยการประเมินอย่างรวดเร็วว่าห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจนั้นจะได้รับผลกระทบอย่างไรจากภาษีศุลกากรปัจจุบันและสถานการณ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น

วิธีที่ AI สามารถช่วยปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของคุณเพื่อรับมือกับอุปสรรคทางการค้า

Sentrisk แพลตฟอร์ม AI โดย Marsh McLennan ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็นและความยืดหยุ่นในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจคุณด้วยข้อมูลและการวิเคราะห์เรียลไทม์ เพื่อช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมการค้าที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยแนวทาง 3 วิธี ดังนี้

1. การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานหลายมิติอย่างรวดเร็ว

การทำการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานแบบดั้งเดิมต้องใช้การสำรวจที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน และการเพิ่มการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรจะทำให้ความท้าทายเหล่านี้ที่สำคัญอยู่แล้วยิ่งทวีความท้าทายเพิ่มขึ้นไปอีก

ความท้าทายในการทำแผนที่ห่วงโซ่อุปทานแบบเดิม

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกลงทุนด้านบุคลากรกว่า 200 คน และด้านการเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ได้ใช้วิธีการสำรวจด้วยตนเองแต่ก็สามารถมองเห็นซัพพลายเออร์ Tier 2 ได้เพียง 40% เท่านั้น

การใช้เครื่องมือ AI อย่าง Sentrisk ซึ่งเสริมพลังด้วยเทคโนโลยีดาวเทียมภูมิสารสนเทศ (geospatial satellite technology) จะช่วยให้คุณสามารถระบุซัพพลายเออร์ต้นน้ำ (รวมถึงซัพพลายเออร์ Tier 2 และ 3) โครงสร้างเครือข่าย และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยอ้างอิงจากข้อมูลการไหลเวียนของสินค้าในแต่ละประเทศ เส้นทางการค้า ข้อมูลการขนส่งแบบเรียลไทม์ การบังคับใช้ภาษีศุลกากรล่าสุด และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

การค้นหาสถานที่ของซัพพลายเออร์ภายใน 48 ชั่วโมง

บริษัทผู้ผลิตแห่งหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อมูลห่วงโซ่อุปทานจำกัดเพียงแค่ซัพพลายเออร์ Tier 1 เท่านั้น แต่ด้วยการใช้ Sentrisk ก็สามารถค้นพบแหล่งซัพพลายเออร์เพิ่มเติมอีกกว่า 900 แห่ง รวมถึงซัพพลายเออร์ต้นน้ำกว่า 300 ราย ภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง

2. การระบุความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรเพื่อกำหนดกลยุทธ์การบรรเทาความเสี่ยง

Sentrisk ช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจของคุณสามารถประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความปั่นป่วนในห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางการค้า หรือภาษีศุลกากรเฉพาะเจาะจง โดยระบบจะแสดงแผนที่เชิงลึกที่ชี้ให้เห็นจุดเปราะบางในระดับสถานที่ ซัพพลายเออร์ และองค์ประกอบ พร้อมจัดระดับความเสี่ยงเป็นต่ำ ปานกลาง หรือสูง

ระบุความเสี่ยงที่สำคัญ: หลังจากทำแผนที่ห่วงโซ่อุปทานของคุณ Sentrisk สามารถระบุพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสำคัญ เช่น ผลกระทบจากภาษีต่อธุรกิจของคุณผ่านแบบจำลองภาษีของเรา เป็นต้น
ประเมินสถานการณ์ภาษี: Sentrisk จะช่วยกำหนดบริบทความเสี่ยงของคุณต่อสถานการณ์ภาษีในปัจจุบันและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น โดยเน้นผลกระทบที่สำคัญที่สุดและเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถดำเนินการได้
ประเมินความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว: แบบจำลองจะช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว โดยอิงจากห่วงโซ่อุปทาน ประเภทของสินค้าระดับขั้นต่างๆ และความสัมพันธ์ของซัพพลายเออร์แต่ละรายในเส้นทางต่างๆ อีกทั้งมีการอัปเดตข้อมูลภาษีล่าสุดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าแบบจำลองยังคงมีไดนามิกและความยืดหยุ่น
รวมข้อมูลการใช้จ่าย: เพื่อจำลองสถานการณ์ในอนาคต จึงสามารถใส่ข้อมูลการใช้จ่ายเข้าไปใน Sentrisk เพื่อให้สามารถประเมินผลกระทบทางการเงินได้อย่างรวดเร็วและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของซัพพลายเออร์ที่จะเกิดผลกระทบมากที่สุด โดยพิจารณาทั้งความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรในปัจจุบันและจากซัพพลายเออร์ต้นน้ำ

Sentrisk เปิดเผยสถานการณ์การกระทำทางการค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากร

บริษัทผลิตรถยนต์แห่งหนึ่งใช้การวิเคราะห์และการจำลองขั้นสูงของ Sentrisk เพื่อประเมินว่ามาตรการทางการค้าส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานอย่างไร พวกเขาระบุจุดอ่อนหลายจุดสำหรับฝาปิดและเทอร์โมสตัท ซึ่งอัตราภาษีที่เสนอจะสร้างผลกระทบเป็นทอดๆ ต่อห่วงโซ่อุปทาน

บริษัทผู้ผลิตในกรณีตัวอย่างข้างต้นได้เปิดเผยการกระจุกตัวของซัพพลายเออร์ที่ไม่เคยทราบมาก่อนในสถานที่แห่งหนึ่ง และพบว่า 50% ของซัพพลายเออร์เหล่านี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้แม่น้ำที่มีแนวโน้มน้ำท่วมเดียวกัน ซึ่งสร้างช่องโหว่สำหรับองค์ประกอบหลัก 4 ด้านในสายผลิตภัณฑ์หลักสำหรับธุรกิจ

3. การตรวจสอบและจัดการการหยุดชะงักแบบเรียลไทม์

Sentrisk รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นโดยมีการอัปเดตทันที ตั้งแต่ภัยพิบัติธรรมชาติจนถึงเหตุการณ์ทางการเมือง ช่วยให้องค์กรสามารถเตรียมกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในห่วงโซ่อุปทาน

เพิ่มความสามารถในการมองเห็นในห่วงโซ่อุปทานของคุณต่อความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรด้วย Sentrisk

ด้วยประสบการณ์ทั่วโลกที่สั่งสมมามากมายในหลายอุตสาหกรรม ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Marsh Asia จึงมีความเข้าใจในธุรกิจของคุณ และพร้อมที่จะร่วมมือกับคุณในการรับมือกับความไม่แน่นอนและความผันผวนในปัจจุบัน Marsh Asia มุ่งมั่นที่จะช่วยลูกค้าดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยใช้เทคโนโลยี AI ผสมผสานกับความรู้ของเรา

เพิ่มความสามารถในการมองเห็นของห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนเพื่อรับมือกับอุปสรรคทางการค้ากับ Sentrisk

ติดต่อเราตอนนี้เพื่อรับการสาธิตแบบจำลองภาษีศุลกากรของ Sentrisk